ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
“ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ”
จากบทความเกี่ยวกับใบกำกับภาษีก่อนหน้านั่น ทุกท่านคงได้รู้แล้วว่าใบกำกับภาษีสำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มี 2 ประเภทที่เราใชกันคือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป และใบกำกับภาษีอย่างย่อ ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ “ใบกำกับภาษีเต็มรูป” ให้เข้าใจถึงรายละเอียดที่ต้องมีในการจัดทำ เพื่อที่จะสามารถดำเนินการจัดทำใบกำกับภาษีได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
เมื่อใดจึงต้องออกใบกำกับภาษี
- กรณีการขายสินค้า ผู้ขายมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีให้กับผู้ซื้อทันทีเมื่อมีการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อ (แม้ว่าผู้ซื้อจะยังไม่ได้จ่ายค่าสินค้าก็ตาม)
- กรณีการให้บริการ ผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีเมื่อได้รับชำระค่าบริการ จะเห็นได้ว่าจุดนี้มีความแตกต่างจากการขายสินค้า เพราะเนื่องจากการให้บริการนั้นไม่สามารถจับต้องได้เหมือนสินค้าจึงใช้จุดของการจ่ายเงินเป็นเกณฑ์
ใบกำกับภาษีเต็มรูปต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง
ผู้ประกอบการจดทะเบียนโดยทั่วไป มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ (เว้นแต่ ผู้ประกอบกิจการค้าปลีกซึ่งมีสิทธิออกใบก ากับภาษีอย่างย่อ) โดยใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
1. คำว่า “ใบกำกับภาษี” ที่เห็นได้ชัดเจน เป็นข้อบังคับตามกฎหมายบังคับให้ต้องระบุเอาไว้ในเอกสารเพื่อให้เป็นใบกำกับภาษี
2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี
3. ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ
4. เลขที่ใบกำกับภาษี
5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าสินค้าหรือบริการ
6. จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการให้ชัดแจ้งแยกแสดงจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ให้เห็นชัดเจน
7. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี เป็นรายการที่เป็นสาระสำคัญที่ประมวลรัษฎากร
กำหนดให้ต้องมีในใบกำกับภาษี และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงวันที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น เรียกง่ายว่าวันที่ได้มีการชำระสินค้าหรือบริการ หรือวันออกใบกำกับภาษี
8. ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด บังคับใช้กับผู้ประกอบการ(ถ้ามี)
8.1 ระบุ “สำนักงานใหญ่” หรือ “สาขาที่…..” ของผู้ขาย
นอกจากองค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว วิธีการจัดทำรายการของใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปต้องจัดทำตามที่กรมสรรพากรกำหนดวิธีการไว้ดังนี้
วิธีการจัดทำรายการของใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
- รายการในใบกำกับภาษีให้ทำเป็นภาษาไทย หรือจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ในฉบับเดียวกันก็ได้ ถ้าจะทำเป็นภาษาต่างประเทศอื่นต้องขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากร
- หน่วยเงินตราในใบกำกับภาษีต้องเป็นหน่วยเงินตราไทย และใช้ตัวเลขไทยหรืออารบิค ถ้าจะจัดทำเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ต้องขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากร
- ใบกำกับภาษีอาจออกรวมกันสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการหลายอย่างก็ได้
- ใบกำกับแบบเต็มรูป ต้องมีรายการครบถ้วน
- รายการในใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป จะต้องไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการ ขีด ฆ่า ขูด ลบ โดยยางลบ หรือใช้ยาหมึก ตก แต่ง ต่อ เติม หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีดังกล่าวถือเป็นภาษีซื้อต้องห้าม
ข้อแนะนำการขายให้กับลูกค้าที่ไม่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
สำหรับลูกค้าที่อาจจะไม่อยากให้ข้อมูลเลขที่บัตรประชาชน กรณีนี้ ทางผู้ขายยังมีหน้าที่ในการออกใบกำกับภาษีเต็มรูปเหมือนเดิม แต่สำหรับข้อมูลผู้ซื้อนั้นเพียงแค่ระบุชื่อและที่อยู่ก็เพียงพอ
ข้อสำคัญคือทุกครั้งต้องมีข้อมูล ชื่อและที่อยู่ หากมีไม่ครบถ้วนถือว่ามีโทษปรับ แนวทางการแก้ไขอาจจะกำหนดให้มีแบบฟอร์มเล็กๆ ให้ลูกค้ากรอกข้อมูลให้เรา เพื่อที่จะได้ออกเอกสารได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่ามีเอกสารรายละเอียดมากมายจนรู้สึกว่าเป็นเรื่องวุ่นวายในการที่จะจัดทำให้เป็นไปตามข้อกำหนดต่างๆ ของกรมสรรพากร แต่ในปัจจุบันมีวิธีที่ง่าย สะดวกสบาย ในการทำงานเหล่านี้อยู่ เช่น การใช้โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปเข้ามาช่วยในการทำงานที่จะสามารถทำให้ท่านสร้างแบบฟอร์มไว้ได้ล่วงหน้า ทำให้สามารถออกใบกำกับภาษีได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ใส่รายละเอียดให้ครบถ้วน ตามข้อกำหนดในการจัดทำใบกำกับภาษีเต็มรูปเท่านั้นเอง…
ที่มา รูปภาพ https://www.rd.go.th/publish/fileadmin/user_upload/ebook/taxinvoice.pdf
https://www.pexels.com/th-th/search/tax/