การทำบัญชีร้านค้า เรื่องที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ไม่ควรมองข้าม !!!

การทำสรุปบัญชีรายรับ รายจ่าย นักขายออนไลน์มือใหม่หลาย ๆ คนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่จำเป็นต้องทำ และเสียเวลา แต่ว่าการทำสรุปบัญชีรายรับรายจ่ายของร้านค้าที่ขายของออนไลน์ จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง เพราะการทำบัญชีร้านค้าจะเป็นประโยชน์กับร้านค้ามากมาย ต่อให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณจะเป็นร้านค้าเล็กๆก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันมีความเกี่ยวเนื่องกับการจ่ายภาษี E-payment อีกด้วย

ทำไมต้องทำบัญชีร้านค้า

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น ทั้งหมดก็เป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นั้นเอง การทำสรุปบัญชีรายรับรายจ่าย จะช่วยให้ร้านค้าสามารถคำนวนค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเดือนนั้นๆ เพื่อให้เราสามารถมาตรวจเช็คในภายหลังได้ว่าเราเสียเงินกับค่าอะไรไปบ้าง และขายสินค้าอะไรได้บ้าง เพื่อนำไปวิเคราะห์และปรับใช้กับการวางแผนว่าใช้จ่าย หรือการเตรียมสต็อคสินค้าในเดือนต่อๆไปได้นั่นเอง
นอกจากนี้แล้ว การที่เราทำสรุปบัญชีรายรับ รายจ่ายเก็บไว้ เราก็สามารถนำรายการตรงนี้มาเพื่อใช้ในการคำนวนภาษี ที่ร้านค้าออนไลน์จะต้องจ่ายในแต่ละปีได้อีกด้วย อย่าลืมว่าจะต้องเก็บใบกำกับภาษีไว้ใช้เพื่อเป็นหลักฐานด้วยทุกครั้งที่มีการซื้อขาย

การทำบัญชีร้านค้า
หากร้านค้าสามารถที่จะจัดทำบัญชีแบบตามรูปแบบได้ ขอแนะนำให้ทางร้านทำบัญชีแบบแยกประเภทเหล่านี้ไว้ได้แก่

  • สมุดบัญชีรายรับ จะบันทึกรายรับที่เกิดขึ้นจากการขายสินค้าของร้านเท่านั้น
  • สมุดบัญชีรายจ่าย บันทึกการค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการ เช่น ซื้อสินค้าเข้า จ่ายค่าเดินทางเพื่อรับ-ส่ง สินค้า ค่าใช้จ่ายภายในร้านค้า ค่าซ่อมแซมต่างๆ ที่เกี่ยวกับสินค้าและร้านค้า เป็นต้น
  • สมุดบัญชีควบคุมสินค้า บันทึกทุกรายการเข้า และออก ของสินค้า เช่นการซื้อเข้า การรับคืนสินค้าจากลูกค้า การขายออก การส่งสินค้าคืนผู้ขาย เป็นต้น
  • สมุดอื่นๆ ที่มีการรับการจ่ายที่ไม่เข้าเกณฑ์ของการซื้อขาย เช่น ได้รับ หรือจ่ายชำระเงินกู้ การรับหรือจ่ายหนี้ส่วนตัว

แต่หากไม่ถนัดในการทำบัญชีข้างต้น การจดบันทึกที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ สามารถทำได้อย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานทางด้านบัญชี เพียงแค่ขอให้เป็นนักจดบันทึกที่ดีก็สามารถบริหารจัดการต้นทุนกำไรขาดทุนร้านของตนเองได้แล้ว

บัญชีร้านค้าอย่างง่าย

สำหรับการทำบัญชีร้านค้าแบบรายวันบอกได้เลยว่าง่ายมากๆ แบบฟอร์มที่เราทำจะเหมือนกับ การทำสรุปบัญชีรายรับรายจ่ายส่วนตัว เพียงแต่เพิ่มเนื้อหาให้ตรงกับที่สรรพากรกำหนด และร้านค้าสามารถเพิ่มเนื้อหาอื่นๆได้ตามความเหมาะสมของของแต่ละร้านค้าเอง ซึ่งเนื้อหาที่กำหนดไว้มีเนื้อหาดังนี้

  1. วัน เดือน ปี ให้เขียนวันที่มีรายการรับเงินและจ่ายเงิน
  2. รายการ ให้ลงรายละเอียดของรายการรับเงิน และ รายการจ่ายเงินที่เกิดขึ้นประจำวัน
  3. รายรับ ให้บันทึกจำนวนเงินที่ทางร้านได้รับเข้ามา เช่น การขายสินค้า, การกู้ยืมเงิน เป็นต้น
  4. รายจ่าย ให้บันทึกจำนวนเงินที่ทางร้านจ่ายออกไปในแต่ละวัน โดยแบ่งเป็น รายจ่ายซื้อสินค้า และ รายจ่ายอื่นๆ เช่น ค่าขนส่งสินค้า ค่ากล่องพัสดุ เป็นต้น
  5. ลงยอดรวมรายเดือน เป็นช่องสำหรับรวมเงินในแต่ละเดือนในตอนสิ้นเดือน โดยรวมเงินที่ได้รับและจ่ายไปในช่องนี้

เมื่อลงรายการครบทุกช่องแล้ว เราจะสามารถสรุปบัญชีรายรับรายจ่ายได้ว่าเดือนนี้ทางร้านได้กำไรหรือขาดทุนกี่บาท เพื่อเป็นการวางแผนค่าใช้จ่ายในเดือนต่อไป

และสามารถนำไปแสดงรายได้ในการยื่นเสียภาษีได้อย่างถูกต้องอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถนำไปเทียบและลงรายละเอียดในสมุดบัญชีแบบแยกตามประเภทที่แนะนำไว้ข้างต้นได้อีกด้วย คือ สมุดรายรับ สมุดรายจ่าย สมุดควบคุมสินค้า และสมุดอื่นๆ
โดยทางร้านต้องรวมสรุปบัญชีรายรับรายจ่ายแบบด้านบน ทุกเดือนตั้งแต่เดือน มกราคม – ธันวาคม นำไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยแบบ ภ.ง.ด.90 และรายรับครึ่งปี ตั้งแต่เดือน มกราคม – มิถุนายน นำไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยแบบ ภงด.94
ในการนำบัญชีร้านค้าไปใช้ในการยื่นภาษี อย่าลืมเก็บเอกสารประกอบค่าใช้จ่ายเช่น บิล/ใบแจ้งหนี้/ใบสำคัญจ่าย และเอกสารรับเงิน เช่น ใบเสร็จรับเงิน,ใบนำฝากธนาคาร,สำเนารายการเคลื่อนไหวบัญชีธนาคาร แยกเป็นหมวดหมู่รายเดือนให้เรียบร้อย เพื่อความสะดวกต่อการยื่นภาษี

ที่มา
https://shoplus.me/th/blog/basic-accounting-for-sellers/ https://postfamily.thailandpost.com/

รูปภาพ
https://www.pexels.com/